โสนเป็นไม้พุ่ม จัดอยู่ในสกุลเดียวกับแค เป็นพืชที่ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี หาได้ง่ายตามริมแหล่งน้ำธรรมชาติ และปราศจากศัตรูพืชรบกวนจึงเป็นผักที่ปลอดภัยจากสารพิษ ใบโสนเป็นใบประกอบแบบขนนก ดอกออกเป็นช่อ กลีบดอกสีเหลือง ประกอบด้วย 5 กลีบ ออกดอกมากในฤดูฝน และที่เข้าใจผิดกันคือ ดอกโสนบานตอนเย็น ไม่ได้เป็นดั่งเพลง “แม่ดอกโสนบานเช้า…” แต่อย่างใด
ในด้านคุณค่าสารอาหาร ดอกโสน 100 กรัมจะมีแคลเซียม 51 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 56 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 8.2 มิลลิกรัม วิตามินเอ 3338 หน่วยสากล วิตามินซี 24 มิลลิกรัม และมีเส้นใยอาหารมากถึง 3.9 กรัม จึงดีต่อลำไส้ สรรพคุณทางยาของดอกโสนคือช่วยสมานลำไส้ แก้ปวดมวนท้อง และถอนพิษร้อน ส่วนอื่น ๆ ของต้นโสนก็ใช้เป็นยาได้ เช่น ใบใช้ตำพอกแผลและแก้ปวดฝี ต้นมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เมล็ดใช้เป็นยาช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ และรากใช้แก้ร้อนในกระหายน้ำ
ดอกโสนกินได้ทั้งเป็นผัก เช่น ลวกจิ้มน้ำพริก ลวกราดน้ำกะทิ ทำไข่เจียว ผัดน้ำมัน ชุบแป้งทอด ทำทอดมันดอกโสน รวมถึงใส่ในแกงส้ม แกงจืด หรือยำ หรือดองเก็บไว้กินกับน้ำพริกต่าง ๆ และยังใช้ทำขนมดอกโสน โดยดอกโสนดิบจะมีรสขมปน เมื่อปรุงสุกจะมีรสหวาน
ขนมดอกโสนเป็นขนมที่มีมาแต่โบราณ ปัจจุบันหาซิมได้ค่อนข้างยาก แต่ถ้าจะลองลงือทำเองวิธีการทำก็ไม่ยุ่งยาก เพียงล้างดอกโสนให้สะอาด ตั้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำมาคลุกผสมแป้งข้าวเจ้า พรมน้ำเกลือเล็กน้อย จากนั้นตักใส่ในกระทงใบตอง ตั้งลังถึงจนน้ำเดือด จึงนำลงไปนึ่งประมาณ 10-15 นาที เมื่อสุกจึงยกลง แล้วโรยน้ำตาล งาคั่ว และมะพร้าวทึนทึกขูด เพื่อเพิ่มความหวานมัน แค่นี้ก็ได้ชิมขนมไทยโบราณฝีมือตัวเองแล้ว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น